
เบลเยียม World Cup ที. คอร์ทอยส์ Y. Tielemans ร. ลูกากู ค. เดอ บรอยน์
เบลเยียม จะยังมีทีมที่แข็งแกร่งอยู่หรือไม่ในฟุตบอลโลกครั้งหน้า หากขุนพลในยุค โกลเด้น เจเนอเรชัน อำลาทีมชาติ
เบลเยียม คือหนึ่งในทีมที่แข็งแกร่งที่สุดทีมหนึ่งในยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งนับตั้งแต่เข้าสู่ศตวรรษที่ 21
ปีศาจแดงแห่งยุโรปเต็มไปด้วยขุมกำลังชั้นยอดที่ถูกขนานนามว่า ‘โกลเด้น เจเนอเรชัน’ จนเคยขึ้นครองอันดับหนึ่งใน ฟีฟ่า แรงกิ้ง อย่างยาวนาน
อย่างไรก็ตาม พวกเขากลับยังไม่ประสบความสำเร็จในทัวร์นาเม้นท์ระดับชาติ โดยเฉพาะในฟุตบอลโลก 2022 ที่จอดป้ายเพียงรอบแบ่งกลุ่มเท่านั้น
หลายคนบอกว่านี่คือทัวร์นาเม้นท์ที่เป็นจุดสิ้นสุดของ ‘โกลเด้น เจเนอรชั่น’ เมื่อนักเตะอย่าง แยน แฟร์ตองเก้น, เควิน เดอ บรอยน, โรเมลู ลูกากู หรือ เอเด็น อาซาร์ อาจตัดสินใจโบกมือลาทีมหลังจากนี้
แล้วในฟุตบอลโลกอีก 4 ปี ข้างหน้า พวกเขายังจะมีทีมที่แข็งแกร่งอยู่หรือไม่ เราลองมาดูกัน
Getty ImagesGK: ธิโบต์ กูร์ตัวส์กูร์ตัวส์ ยังคงรักษาฟอร์มเก่งและคือหนึ่งในผู้รักษาประตูที่ดีสุดในโลก ซึ่งมั่นใจได้เลยว่าอีก 4 ปี ข้างหน้า เขาจะยังคงอยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยมเช่นเคย พร้อมกับประสบการณ์ที่มากขึ้นสตาร์ของ เรอัล มาดริด จะมีอายุ 34 ปี ในฟุตบอลโลกครั้งหน้า แต่ไม่ใช่อุปสรรคสำหรับตำแหน่งผู้รักษาประตู และเขาจะได้รับหน้าที่กัปตันทีมอย่างแน่นอน
Getty ImagesCB: เซโน เดบาสต์เดบาสต์ ก้าวขึ้นมามาเป็นตัวจริงของอันเดอร์เลชท์ในฤดูกาลนี้ด้วยวัยเพียง 19 ปี และมีชื่อติดทีมชาติเบลเยียมชุดลุยฟุตบอลโลก 2022 ด้วยในฟุตบอลโลกครั้งหน้าเขาจะเติบโตขึ้นและอาจมีประสบการณ์ค้าแข้งกับบิ๊กทีมของยุโรป โดยเขาจะกลายเป็นเสาหลักในแนวรับของทีมชาติเหมือนที่ได้รับฉายาว่า “แวงซองต์ กอมปานี คนใหม่”
Getty ImagesCB: เว้าท์ ฟาสฟาส ย้ายมาร่วมทีม เลสเตอร์ เพื่อเป็นตัวแทนของ เวสลีย์ โฟฟานา และเขาทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม แม้จะเจอปัญหาอยู่บ้างในช่วงต้นฤดูกาลฟุตบอลโลกครั้งหน้าเขาจะอายุ 28 ปี ซึ่งคาดว่าเขาจะเป็นหนึ่งในผู้นำรุ่นต่อไปของเบลเยียม
Getty ImagesCB: เลอันเดอร์ เดนด็องเกอร์แม้จะอายุ 27 ปี แต่ เดนด็องเกอร์ ยังถือเป็นกองหลังอายุน้อยสำหรับ เบลเยียม ในศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ฟุตบอลโลกครั้งหน้า ถึงเวลาแล้วที่เขาจะก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักในแนวรับแทนที่ แยน แฟร์ตองเก้น และ โทบี อัลเดอไวเรลด์
Getty ImagesRWB: โนอาห์ ซาดิกีซาดิกี อายุเพียง 17 ปี แต่ยึดตำแหน่งตัวจริงกับ อันเดอร์เลชท์ ได้อย่างเหนียวแน่นในฤดูกาลนี้เจ้าหนูรายนี้สามารถเล่นได้ทั้งฟูลแบ็ค, วิงแบ็ค รวมถึงปราการหลังตัวกลาง ซึ่งหากยังรักษาผลงานดีต่อเนื่อง เขาจะอยู่ในทีมชุดฟุตบอลโลก 2026 แน่นอน
Getty ImagesCM: โรเมโอ ลาเวียเชื่อกันว่าหาก ลาเวีย ไม่ได้รับบาดเจ็บซึ่งทำให้เขาต้องพักถึง 2 เดือนในช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เขาจะมีชื่ออยู่ในทีมชุดลุยฟุตบอลโลก 2022 แน่นอนอดีตเด็กปั้นของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สร้างชื่อได้อย่างรวดเร็วในพรีเมียร์ลีกนับตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับ เซาแธมป์ตัน และด้วยวัยเพียง 18 ปี เขาจะเป็นกำลังหลักของ เบลเยียม ยุคต่อไป
Getty ImagesCM: ยูริ ติเลอมันส์เป็นที่คาดกันว่าหากไม่ใช่ กูร์ตัวส์ ก็คงเป็น ติเลอมันส์ ที่จะได้รับหน้าที่เป็นกัปตันทีมของ เบลเยียม ในฟุตบอลโลก 2026ฟุตบอลโลกครั้งหน้าเขาจะอายุ 30 ปี ซึ่งจะกลายเป็นนักเตะประสบการณ์สูง เหมาะสำหรับเป็นพี่ใหญ่ของทีมเลือดใหม่ของ เบลเยียม
Getty ImagesLWB: มัคซิม เดอ คุยแปร์เด คุยแปร์ ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นกับทีมชาติเบลเยียมตั้งแต่ชุด U-16, U-19 และ U-21 และมีโอกาสได้โชว์ฝีเท้าในฟุตบอลโลกอีกสี่ปีข้างหน้าดาวเตะวัย 21 ปี ถูก เควีซี เวสเตอร์โล ยืมตัวจาก คลับ บรูจ มาใช้งานในฤดูกาลนี้ และทำไปแล้วถึง 3 ประตูกับ 6 แอสซิสต์ จากการลงเล่นเพียง 17 นัด
Getty ImagesRW: ยารี แฟร์สแชเรนแฟร์สแชเรน โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นกับ อันเดอร์เลชท์ และติดทีมชาติไปแล้ว 7 นัด หลังประเดิมสนามไปเมื่อปี 2019 ด้วยวัย 18 ปี ในเวลานั้นยังไม่ชัวร์ว่า เควิน เดอ บรอยน์ จะอำลาทีมชาติหรือยังในฟุตบอลโลกครั้งหน้า แต่ถ้าสตาร์จาก แมนฯซิตี้ วางมือ แฟร์สแชเรน ก็ถือเป็นตัวแทนที่น่าสนใจ
Getty ImagesLW: เจเรมี โดกูโดกู ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในศึกยูโร 2020 แต่เจอปัญหาอาการบาดเจ็บเล่นงานจนทำให้พัฒนาการของเขาสะดุดลงเล็กน้อยเขามีชื่ออยู่ในทีมชุดลุยฟุตบอลโลก 2022 แม้จะแทบไม่ได้ลงสนามกับต้นสังกัด แรนส์ ซึ่งฟุตบอลโลกครั้งหน้าเขามีโอกาสสูงที่จะยึดตัวจริงทางริมเส้นฝั่งซ้าย โดยมีคู่แข่งสำคัญคือ เลอันโดร ทรอสซาร์
Getty ImagesST: ชาร์ลส์ เดอ เคเตเลียร์ฟุตบอลโลก 2026 โรเมลู ลูกากู จะมีอายุ 33 ปี ซึ่งไม่มากเกินไปนักที่จะมีชื่อติดทีม แต่หาก เบลเยียม อยากมองหาทางเลือกใหม่ เดอ เคเตเลียร์ คือตัวเลือกที่น่าสนใจเขาได้รับการยกย่องว่าเป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์มากสุดของ เบลเยียม ในเจเนอเรชั่นเดียวกัน และน่าสนใจว่าจะยกระดับฝีเท้าได้มากแค่ไหนในอีก 4 ปีข้างหน้า